นานาสาระเกี่ยวกับพื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้ หากพูดแค่นี้คุณจะนึกถึงอะไร บางคนอาจจะคิดถึงพื้นที่ทำจากแผ่นไม้ หรือ บางคนก็อาจจะนึกถึงลายไม้ที่อยู่บนแผ่นไม้ หรือบางคนก็จะนึกถึงการปูพื้นไม้ หรืออื่นนที่เกี่ยวกับพื้นไม้ ใช่ไหมค่ะ แต่ถ้าเราพูดถึง ชนิดของพื้นไม้คุณจะนึกถึงพื้นไม้แบบใดบ้าง เชื่อได้เลยค่ะว่าคำตอบของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนจะนึกถึงสีของพื้นไม้ บางคนก็นึกถึงประเภทของพื้นไม้ เป็นต้น  แล้วเราควรเลือกพื้นไม้แบบไหนดี วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรูจักกับพื้นไม้ชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยม นั้นก็คือพื้นไม้ลามิเนตค่ะ   พื้นไม้ลามิเนต คืออะไร ก่อนที่เราจะเริ่มทำความรู้จักกับพื้นไม้ลามิเนต เราอยากให้คุณรู้จักกับความหมายของพื้นไม้ลามิเนตกันก่อนค่ะ พื้นไม้ลามิเนต คือ พื้นที่ผลิตจากไม้ส่วนแกนกลางผลิตจากไม้สนบดผิวหน้าประกอบด้วยชั้นฟิล์มลายไม้คุณภาพสูง (Decoration Film) สีสันสวยงาม และเคลือบผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซิน พื้นไม้ลามิเนตเป็นพื้นไม้ชนิดหนึ่งที่นำแผ่นไม้บางมาต่อกันชั้น ๆ ใช้สำหรับการปูพื้นภายในบ้านเพราะมีความสวยงาม ทนทานและติดตั้งง่าย พื้นไม้ลามิเนต ผลิตจากกระบวนการตามวิทยาศาสตร์ซึ่งยังมีคงส่วนประกอบที่ทำจากไม้ โดยวิธีการบีบอัดไม้จากป่าปลูกด้วยความแรงสูง (ส่งผลให้ตัวไม้มีความคงทนค่อนข้างสูง) โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และนำมารวมเข้าด้วยกันกับชั้นอื่น ๆ โดยการบีบอัดด้วยความแรงสูง ร่วมกับความร้อน โดย ชั้นต่าง ๆของพื้นไม้ลามิเนต   ความแตกต่างของพื้นไม้ลามิเนต ความแตกต่างของพื้นไม้ลามิเนตกับพื้นไม้อื่น ๆนั้นก็คือ พื้นไม้ลามิเนตเป็นแบบสำเร็จรูปส่วนแกนกลางผลิตจากไม้สนบด อัดด้วยความร้อนและแรงดันระดับสูง (HDF: Hidensity Fiber Board) มีคุณสมบัติทนต่อแรงกดทับได้ดี ผิวหน้าประกอบด้วยชั้นฟิล์มลายไม้คุณภาพสูง (Decoration Film) สีสันสวยงาม และเคลือบผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซิน ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของการทนทานต่อรอยขูดขีดได้ดี (ระดับ AC3) และชั้นล่างเคลือบด้วยสารป้องกันความชื้นคุณภาพสูงพร้อมทั้งแผ่นเมลามีน (Melamine Film) อีกครั้ง สามารถติดตั้งด้วยระบบลอยตัว (Floating System)   คุณสมบัติของพื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้ลามิเนต ถูกเคลือบด้วยเมลามีนเรซินจึงทำให้การทนทานต่อรอยขูดขีดได้ดี (ระดับ AC3) พื้นไม้ลามิเนตเป็นแบบสำเร็จรูปส่วนแกนกลางผลิตจากไม้สนบด อัดด้วยความร้อนและแรงดันระดับสูง (HDF: Hidensity Fiber Board) มีคุณสมบัติทนต่อแรงกดทับได้ดี พื้นไม้ลามิเนตติดตั้งง่าย สามารถติดตั้งด้วยระบบลอยตัว (Floating System)   ข้อควรระวังในการใช้ พื้นไม้ลามิเนตมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าพื้นไม้ชนิดอื่นจึงไม่ถูกกับอากาศร้อน ดังนั้นห้องที่ปูด้วยลามิเนตต้องเปิดหน้าต่างเป็นประจำเพื่อให้อากาศถ่ายเท  ไม่เช่นนั้นรอยต่อของพื้นไม้อาจจะบวม โก่ง หรือยุบยวบก็เป็นได้ พื้นไม้ลามิเนตยังไม่ถูกกับความชื้นสูง เช่น การเกิดความชื้นเพราะมีน้ำรั่วซึมจากกรอบหน้าต่าง พื้นหน้าห้องน้ำ หรือความชื้นจากใต้พื้นคอนกรีต สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้พื้นไม้บวมพองได้ พื้นไม้ลามิเนตต้องทำความสะอาดอย่างถูกวิธี โดยใช้ผ้าชุบน้ำบิดแบบหมาดๆ จนถึงแห้ง หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาด การใช้ผ้าเปียกเกินไปหรือการทำน้ำหกลงพื้นแล้วไม่รีบเช็ดจะทำให้พื้นบวมได้ง่าย พื้นไม้ลามิเนตมีสิทธิโดนปลวกแทะถ้าได้รับความชื่้นอยู่เสมอ พื้นไม้ลามิเนตเหมาะสำหรับปูพื้นผิวภายในเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับพื้นภายนอกได้เลย ถ้าพื้นผิวคอนกรีตค่อนข้างไม่ได้ระดับ ไม่เรียบ ควรเลือกพื้นชนิดหนาคือ 12 มิลลิเมตร ขั้นตอนการติดตั้งพื้นผิวต้องได้ระดับพื้นไม้ลามิเนตติดตั้งง่ายและรวดเร็วก็จริง แต่การเตรียมพื้นผิวพื้นหน้างานต้องปรับให้ได้ระดับก่อนติดตั้ง โดยความแตกต่างของระดับไม่ควรเกิน 5 มิลลิเมตร ไม่เช่นนั้นพื้นจะยุบยวบได้ วิธีติดตั้งต้องถูกวิธีถูกขั้นตอน เช่น การเว้นร่องรอบห้องประมาณ 1 เซนติเมตร หรือต้องสอดพื้นไม้ลามิเนตเข้ากับใต้วงกบไม้เพื่อไม่ให้พื้นโก่งตัวหรือยุบตัว   พื้นไม้ลามิเนตของ Forthmat บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทจัดจำหน่ายและติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า  ด้วยการคัดสรรไม้พื้นสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน เราจัดจำหน่าย พื้นไม้สำเร็จรูปแบบลามิเนต แกนกลางผลิตจากไม้สนบด อัดด้วยความร้อนและแรงดันระดับสูง (HDF: Hidensity Fiber Board) ผิวหน้าประกอบด้วยฟิล์มลายไม้และเคลือบผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซินซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของการทนทานต่อรอยขูดขีดได้ดี เรามีพื้นไม้ลามิเนตหลายสีให้ทุกคนได้เลือกซื้อ แบ่งตามการเคลืบผิวได้ดังนี้ plank พื้นไม้ลามิเนตสี Oak while wash , พื้นไม้ลามิเนตสี Oak , พื้นไม้ลามิเนตสี Pine, พื้นไม้ลามิเนตสี Teak Grey , พื้นไม้ลามิเนตสี Antique , พื้นไม้ลามิเนตสี Walnut 2 – Strips พื้นไม้ลามิเนตสี Teak Grey 3 – Strips พื้นไม้ลามิเนตสี Maple ,พื้นไม้ลามิเนตสี Oak  ,พื้นไม้ลามิเนตสี Teak , พื้นไม้ลามิเนตสี Walnut , พื้นไม้ลามิเนตสี Grey, พื้นไม้ลามิเนตสี beech ............................................................... สนใจติดต่อบริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด Address : 24/44 ซอยวัดสลักเหนือ (ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด31) ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 Phone : +66 20433361 Mobile : +66 891718377 Mobile : +66 813741877 Line@ : @forthmat Email : sales@forthmat.com  

ความต่างของพื้นไม้ลามิเนต ในปัจจุบันคนนิยมซื้อบ้านมือ 2 มากกว่าการซื้อบ้านหลังใหม่เพราะบ้านมือสองราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง และบ้านมือสองเราสามารถออกแบบและตกแต่งต่างความต้องการได้ เราสามารถปรับได้ตั้งแต่การกั้นห้อง การทำผนัง รวมไปถึงการทำพื้น เป็นต้น การปรับแต่งบ้านในยุคนี้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้เป็น ไม้จริง หรือ วัสดุลายไม้ เช่น ผนังไม้ กระเบื้องยางลายไม้ เป็นต้น คนในยุคนี้ยังนิยมใช้พื้นไม้ในการปรับแต่งบ้านและสร้างบ้านใหม่อีกด้วย แล้วถ้าเราจะปรับพื้นใหม่แล้วควรจะเลือกแบบใหนดี วันนี้เราจะมาและนำพื้นไม้ชนิดหนึ่งให้ทุกคนรู้จักกับ พื้นไม้ลามิเนต ในด้านความต่างพื้นไม้ลามิเนต   พื้นไม้ลามิเนต คือ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับพื้นไม้ลามิเนตกันก่อนค่ะ พื้นไม้ลามิเนต คือพื้นไม้ชนิดหนึ่งเป็นชั้น ๆ การเป็นชั้น ๆ ชิ้นบาง ๆ หรือ แผ่นบาง ๆ ใช้สำหรับการปูพื้นภายในบ้านเพราะมีความสวยงาม ทนทานและติดตั้งง่าย พื้นไม้ลามิเนต ผลิตจากกระบวนการตามวิทยาศาสตร์ซึ่งยังมีคงส่วนประกอบที่ทำจากไม้ โดยวิธีการบีบอัดไม้จากป่าปลูกด้วยความแรงสูง (ส่งผลให้ตัวไม้มีความคงทนค่อนข้างสูง) โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และนำมารวมเข้าด้วยกันกับชั้นอื่น ๆ โดยการบีบอัดด้วยความแรงสูง ร่วมกับความร้อน โดย ชั้นต่าง ๆของพื้นไม้ลามิเนต   ความต่างของพื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้ลามิเนต แบบสำเร็จรูปส่วนแกนกลางผลิตจากไม้สนบด อัดด้วยความร้อนและแรงดันระดับสูง (HDF: Hidensity Fiber Board) มีคุณสมบัติทนต่อแรงกดทับได้ดี ผิวหน้าประกอบด้วยชั้นฟิล์มลายไม้คุณภาพสูง (Decoration Film) สีสันสวยงาม และเคลือบผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซิน ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของการทนทานต่อรอยขูดขีดได้ดี (ระดับ AC3) และชั้นล่างเคลือบด้วยสารป้องกันความชื้นคุณภาพสูงพร้อมทั้งแผ่นเมลามีน (Melamine Film) อีกครั้ง สามารถติดตั้งด้วยระบบลอยตัว (Floating System)   พื้นไม้ลามิเนตของ Forthmat บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทจัดจำหน่ายและติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า  ด้วยการคัดสรรไม้พื้นสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน เราจัดจำหน่าย พื้นไม้สำเร็จรูปแบบลามิเนต แกนกลางผลิตจากไม้สนบด อัดด้วยความร้อนและแรงดันระดับสูง (HDF: Hidensity Fiber Board) ผิวหน้าประกอบด้วยฟิล์มลายไม้และเคลือบผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซินซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของการทนทานต่อรอยขูดขีดได้ดี เรามีพื้นไม้ลามิเนตหลายสีให้ทุกคนได้เลือกซื้อ แบ่งตามการเคลืบผิวได้ดังนี้ plank พื้นไม้ลามิเนตสี Oak while wash , พื้นไม้ลามิเนตสี Oak , พื้นไม้ลามิเนตสี Pine, พื้นไม้ลามิเนตสี Teak Grey , พื้นไม้ลามิเนตสี Antique , พื้นไม้ลามิเนตสี Walnut 2 - Strips พื้นไม้ลามิเนตสี Teak Grey 3 - Strips พื้นไม้ลามิเนตสี Maple , พื้นไม้ลามิเนตสี Oak  , พื้นไม้ลามิเนตสี Teak , พื้นไม้ลามิเนตสี Walnut , พื้นไม้ลามิเนตสี Grey, พื้นไม้ลามิเนตสี beech

5 ข้อดีของผนังไม้ หากถามว่าทำไหมต้องใช้ผนังไม้ในการสร้างบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ หรือ ผนังไม้ต่างจากผนังอย่างอื่นอย่างไร และผนังไม้จริงคืออะไร เราขอตอบแบบนี้ค่ะ Wooden Wall หรือ ผนังไม้ เกิดจากการนำแผ่นไม้มาวางเรียงต่อกันบนผนัง ไม่ว่าจะเป็นการเรียงในแนวนอน แนวตั้ง หรือในรูปแบบต่าง ๆ สร้างความสวยงาม ดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ให้กับการตกแต่งผนังทั้งภายในและภายนอก ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ให้ความอบอุ่น ทั้งด้วยการมองเห็นหรือการสัมผัส ลายไม้ตามธรรมชาติ แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะของแผ่นไม้แต่ละแผ่น การตกแต่งผนังด้วยไม้จริง จึงช่วยสร้างความสวยงาม ดูอบอุ่นอย่างมีเอกลักษณ์ ให้กับที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ต่าง ๆ 5 ข้อดีของผนังไม้ ผนังไม้ทำให้เกิดมลภาวะต่ำ ผนังไม้ทำให้เกิดมลภาวะต่ำ เนื่องจากผนังไม้ถูกผลิตจากไม้ที่เกิดขึ้นตามกระบวนการทางธรรมชาติ แล้วจึงนำมาผ่านกระบวนการให้การตัดแต่ง อบ และ เคลือบผิว จึงออกมาเป็นผนังไม้ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน จากกระบวนการที่กล่าวมาตัวไม้ที่นำมาทำผนังไม้ไม่ได้ผ่านการผสมกับวัตถุดิบชนิดอื่น จึงทำให้ผนังไม้เกิดมลพิษต่ำกว่าผนังชนิดอื่น ๆ ผนังไม้เก็บเสียงได้ดี ผนังไม้เก็บเสียงได้ดี เพราะคุณสมบัติของเนื้อไม้สามารถดูดซับเสียงได้ดี เนื่องจากอัตราความเร็วของคลื่นเสียงที่ผ่านไม้มีค่าที่ต่ำกว่าวัสดุก่อสร้างอีกหลายประเภท ทำให้ผนังไม้เป็นที่นิยมในสถานที่ที่ต้องการเก็บเสียง เช่น ห้องซ้อมดนตรี โรงละครเวที เป็นต้น นอกจากจะเก็บเสียงได้ดีแล้ว ผนังไม้ยังเพิ่มความสวยงาม ดูคลาสสิค เพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูดให้แด่สถานที่นั้น ๆได้อีกด้วย ผนังไม้ป้องกันความร้อนได้ดี ผนังไม้ป้องกันความร้อนได้ดี เนื่องไม้มีคุณสมบัติการนำความร้อนที่ต่ำ ทำให้ความร้อนจากภายนอกอาคารเข้ามาสู่ภายในอาคารได้ยาก ดังนั้นจึงการสามารถลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้ หรือประหยัดไฟฟ้ามากขึ้นนั้นเอง ผนังไม้เป็นฉนวนไฟฟ้า ผนังไม้เป็นฉนวนไฟฟ้า เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งของไม้ที่เป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้าได้ดี หากเราลองสังเกตุในพื้นที่ทั่วไปในบางประเทศยังใช้ไม้ในการทำเสาไฟฟ้าในที่ต่าง ๆ เพื่อป้องการฟ้าผ่า หากเกิดการกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจึงเชื่อได้ว่าผนังไม้จะไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ผนังไม้ช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูดีขึ้น ผนังไม้ช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูดีขึ้น เนื่องจากการใช้ผนังไม้ภายในบริษัททำให้บริษัทดูอบอุ่นมากขึ้น ดูสบายตามากขึ้น ด้วยลายได้ของไม้ทำให้เรารู้สึกเหมือนเราอยู่ใกล้ธรรมชาติมากขึ้น บางบริษัทอาจจะนำมาดัดแปลงเป็นผนังไม้แบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นในกับบริษัท บางบริษัทยังใช้ไม้เพื่อเสริมฮวงจุ้ยอีกด้วย นอกจากนี้ผนังไม้ยังทำความสะอาดและดูแลรักษาได้ง่ายอีกด้วยเพียงใช้ผ้าชุบน้ำบิดผ้าให้มาดแล้วเช็ดผนังไม้ตามแนวไม้   บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด เราบริษัทจัดจำหน่ายและติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า ด้วยการคัดสรรไม้พื้นสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน มีให้เลือกมากกว่า 50 แบบ เหมาะสำหรับรูปแบบงานตกแต่งภายในที่หลากหลาย และการใช้งานที่แตกต่างสำหรับที่พักอาศัย โรงแรม และสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์การติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป ในงานโครงการที่พักอาศัย โรงแรม หรือร้านค้าต่างๆ และยังเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าปลีก กลุ่มสถาปนิค กลุ่มผู้รับเหมา กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ และยึดมั่นในการให้งานบริการที่มีคุณภาพ ทำให้เราพร้อมที่จะส่งมอบ งานพื้นไม้ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานให้กับลูกค้าทุกท่าน …………………………………………………….. สนใจติด บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด Address : 24/44 ซอยวัดสลักเหนือ (ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด31) ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 Phone : +66 20433361 Mobile : +66 891718377 Mobile : +66 813741877 Line@ : @forthmat Email : sales@forthmat.com

พื้นไม้จริง Solid Original Floor พื้นไม้จริง Solid Original Floor คือ พื้นไม้จริงทำสีสำเร็จรูป แบบรางมีลิ้นรอบตัว ผ่านการอบไสหน้าไม้ให้เรียบทั้งสี่หน้า พื้นไม้จริงที่ได้จะเป็นไม้ชิ้นเดียวที่ผ่านกระบวนการอบด้วยอุณหภูมิมาตรฐานของพื้นไม้จริง การทำอบพื้นไม้จริงด้วยอุณหภูมิมาตรฐานเพื่อความทนทานต่อการยืดและหดตัวของพื้นไม้จริง พื้นไม้จริงด้านหลังทำการเซาะร่องเพื่อป้องกันการบิดงอ และเคลือบผิวสำเร็จรูปจากโรงงาน ด้วยโพลียูรีเทน ยูวีอคริลิคแลคเกอร์ หนา 6 ชั้น สามารถติดตั้งได้ทั้ง ระบบกาว (Glue down System) และระบบยึดตะปู (Nail down System) ทำให้พื้นไม้จริงที่ได้มีคุณภาพมาตรฐาน พื้นไม้จริง Solid Original Floor สามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ พื้นไม้จริง Solid Uni Floor ( UNI ) พื้นไม้จริงทำสีสำเร็จรูป แบบ UNI ผลิตจากไม้จริงทำการต่อประสานในแนวยาว  จำนวน 3-5 แถว รอยต่อแนวยาว พื้นไม้จริงมีลักษณะคล้ายนิ้วมือล็อคกัน ( FINGER JOINT ) อัดติดกันด้วยกาว เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นไม้พื้นเรียบร้อยแล้วที่ขอบด้านใช้งานจะทำการลบมุมรอบตัว ( BEVEL ) และพื้นไม้จริงด้านล่างทำการเซาะร่องเพื่อป้องการบิดงอ เคลือบผิวสำเร็จรูปจากโรงงานด้วยระบบโพลียูริเทน ยูวีอคริลิคแลคเกอร์ หนา 6 ชิ้น สามารถติดตั้งพื้นโดยใช้ระบบกาว ( GLUE DOWN SYSTEM ) หรือระบบยึดตะปู (NAIL DOWN SYSTEM ) พื้นไม้จริง  Solid Finger Joint Laminate Floor ( FJL ) พื้นไม้จริงทำสีสำเร็จรูป แบบ FJL ผลิตจากไม้ชิ้นย่อยทำการต่อประสานกันทั้งในแนวกว้างและแนวยาวจำนวน 3-5 แถว และรอยประสานกันในแนวยาวมีลักษณะคล้ายนิ้วมือล็อคกัน  ( FINGER JOINT ) อัดติดกันด้วยกาว เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นไม้พื้นเรียบร้อยแล้วที่ขอบด้านใช้งานจะทำการลบมุมรอบตัว ( BEVEL )และพื้นไม้จริงด้านล่างทำการเซาะร่องเพื่อป้องกันการบิดงอ เคลือบผิวสำเร็จรูปจากโรงงานด้วยระบบ โพลียูริเทน ยูวีอคริลิคแลคเกอร์ หนา 6 ชิ้น สามารถติดตั้งลงพื้นโดยระบบกาว ( GLUE DOWN SYSTEM ) หรือระบบยึดตะปู (NAIL DOWN SYSTEM ) บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทจัดจำหน่ายและติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า   ด้วยการคัดสรรไม้พื้นสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน มีให้เลือกมากกว่า 50 แบบ เหมาะสำหรับรูปแบบงานตกแต่งภายในที่หลากหลาย และการใช้งานที่แตกต่างสำหรับที่พักอาศัย โรงแรม และสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์การติดตั้งพื้นไม้สำเร็จรูป ในงานโครงการที่พักอาศัย โรงแรม หรือร้านค้าต่างๆ และยังเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าปลีก กลุ่มสถาปนิค กลุ่มผู้รับเหมา กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ และยึดมั่นในการให้งานบริการที่มีคุณภาพ ทำให้เราพร้อมที่จะส่งมอบ งานพื้นไม้ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานให้กับลูกค้าทุกท่าน .............................................................. สนใจติด บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด Address :  24/44 ซอยวัดสลักเหนือ (ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด31) ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 Phone :  +66 20433361 Mobile :  +66 891718377 Mobile :  +66 813741877 Line@ : @forthmat Email : sales@forthmat.com

3 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับกระเบื้องยางลายไม้ หลายคนอาจจะกำลังมองหากระเบื้องหรือพื้นไม้แบบต่างๆกันอยู่ใช่ไหมค่ะ ในปัจจุบันก็มีกระเบื้องและพื้นไม้ให้คุณเลือกซื้อเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้จริง พื้นไม้แท้ พื้นไม้จริงลามิเนต เป็นต้น วันนี้ forthmat เราพาทุกคนมารู้จักกับกระเบื้องยางลายไม้ในบทความเรื่อง 3 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับกระเบื้องยางลายไม้ 3 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับกระเบื้องยางลายไม้ กระเบื้องยางลายไม้สามารถแบ่งตามวัตถุดิบที่ผลิตออกเป็น 2 ชนิด คือ กระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากยางธรรมชาติ และ กระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากโพลิเมอร์ - กระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากยางธรรมชาติ ส่วนใหญ่แล้วกระเบื้องยางลายไม้จะผลิตจากยางพารา เนื่องจากยางพารามีคุณสมบัติความเหนียว ยืดหยุ่นสูง มีความทนทานต่อการใช้งาน มีความทนทานต่อการฉีกขาด มีความทนทานจากการขัดถูสูงและทนต่อกรดด่างอ่อนได้ดี กระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากยางธรรมชาติจึงเป็นที่นิยม - กระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากโพลิเมอร์ มีทั้งกระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากโพลียูรีเทนและกระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากพีวีซี ถ้าหากเป็นแบบกระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากโพลียูรีเทนจะมีคุณสมบัติดีว่ากระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากพีวีซี มีความเหนียว ทนทานต่อการฉีกขาดมากกว่า และหากโดนความร้อนมากๆจะไม่กรอบและเปราะง่ายเหมือนพีวีซี คุณสมบัติของกระเบื้องยางลายไม้ กระเบื้องยางลายไม้พื้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นและทนทานด้วยคุณสมบัติพิเศษของผลิตกระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากยางธรรมชาติ และ กระเบื้องยางลายไม้ที่ผลิตจากโพลิเมอร์ คือเพิ่มแรงหนืดทำให้ป้องกันปัญหาการลื่นเมื่อพื้นเปียกน้ำได้เป็นอย่างดีเหมาะกับพื้นบริเวณที่มีการใช้งานตลาดเวลาหรือใช้งานประจำ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก โถงทางเดิน เป็นต้น ข้อดีของกระเบื้องยางลายไม้ กระเบื้องยางลายไม้ให้การยึดเกาะที่ดี ไม่ลื่นปลอดภัย กระเบื้องยางลายไม้ นิยมใช้ในบ้าน เวลาสมาชิกในบ้านหกล้มแล้วจะไม่เกิดอาการบาดเจ็บมาก เพราะพื้นผิวมีความนุ่มเดินแล้วไม่เกิดเสียง และยังนิยมใช้กระเบื้องยางลายไม้ปูในสำนักงาน และโรงพยาบาลด้วย กระเบื้องยางลายไม้ราคาไม่แพง หากเทียบพื้นแบบอื่นๆแล้วกระเบื้องยางลายไม้ ถือว่าเป็นวัสดุที่ราคาถูกกว่าพื้นชนิดอื่นๆ และกระเบื้องยางลายไม้ยังลายที่เหมือนกับไม้จริงอื่นด้วย กระเบื้องยางลายไม้ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดง่าย และทดทานต่อการใช้งาน กระเบื้องยางลายไม้ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน ไม่เกิดฝุ่น กระเบื้องยางลายไม้ไม่ทำให้เกิดเสียงดังขณะติดตั้งงานกระเบื้องยางลายไม้ กระเบื้องยางลายไม้มีรอยต่อระหว่างแผ่นที่สนิท ลดปัญหาการเกิดความสกปรกของร่องยาแนว ที่พบได้จากการปูกระเบื้องชนิดอื่นๆ และยังช่วยลดการสะสมเชื้อโรคสิ่งสกปรก จึงเหมาะกับใช้งานในบ้านและในโรงพยาบาลอีกด้วย

พื้นไม้ไวนิลคืออะไร?? หลายคนที่กำลังตกแต่งบ้านใหม่ หรือกำลังเลือกพื้นสำหรับทำบ้านใหม่ แล้วอาจจะสงสัยว่าพื้นไม้ไวนิลนั้นคืออะไร พื้นไม้ไวนิลนั้นต่างจากพื้นไม้ชนิดอื่นอย่างไร วันมีเรามัคำตอบของคำถามนี้มาฝากกันค่ะ พื้นไม้ไวนิลเป็นวัสดุใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาพอๆ กับพื้นลามิเนต แต่ทนทานกว่ามาก โดยเฉพาะทนทานต่อความชื้นและปลวก ความจริงแล้วพื้นไม้ไวนิล ไม่ได้ผลิตจากไม้เลย แต่พื้นไม้ไวนิลผลิตจากpvc100%โดยการวางfiber layerให้เป็นชั้นๆ เพื่อความแข็งแรง และทำให้พื้นไม้ไวนิลไม่หดตัว ผลิตด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยมาตรฐานยุโรป ทำให้พื้นไม้ไวนิล สามารถมีลวดลายและสี ที่มากมาย และมีความคล้ายคลึงกับไม้จริงได้มากยิ่งขึ้น พื้นไม้ไวนิลแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ 1)พื้นไม้ไวนิลประเภทติดตั้งด้วยการทากาว ติดตั้งคล้ายกระเบื้องยาง คือทากาวแล้วก็ปูลงไปเลย พื้นไม้ไวนิลประเภทนี้จะมีความบางมาก ความหนาประมาณ 2-3 มม. 2) พื้นไม้ไวนิลประเภทติดตั้งแบบคลิ๊กล็อค ติดตั้งคล้ายพื้นลามิเนต คือเข้าคลิ๊กล็อคโดยไม่ใช้กาว วัสดุมีความหนากว่าประเภทแรกเล็กน้อย ความหนาประมาณ 4-5.5 มม. ข้อดีของพื้นไม้ไวนิล พื้นไม้ไวนิลราคาไม่แพงเลย พื้นไม้ไวนิลทนน้ำ ความชื้นมาก และทนต่อปลวก พื้นไม้ไวนิลสามารถติดตั้งทับพื้นกระเบื้องได้เลย ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว พื้นไม้ไวนิลบางรุ่นมีคุณสมบัติไม่ลามไฟทำให้เหมาะแก่การติดตั้งในสถานที่ต่างๆ พื้นไม้ไวนิลมีน้ำหนักเบาและมีความบางกว่าพื้นชนิดอื่น ข้อเสียของพื้นไม้ไวนิล ถ้าพื้นเดิมไม่เรียบแม้เพียงนิดเดียว เมื่อปูพื้นไวนิลทับไปจะเห็นเป็นคลื่นชัดเจน เดินแล้วรู้สึกได้ชัดเจน ก่อนปูพื้นจึงแนะนำให้ปรับระดับพื้นให้เรียบที่สุดก่อน ผิวสัมผัสและอุณหภูมิไม่เหมือนไม้ ถ้าปูในบริเวณที่ต้องเดินเท้าเปล่า จะรู้สึกถึงความแตกต่างจากพื้นไม้จริงอย่างชัดเจน คุณสมบัติของพื้นไม้ไวนิล 1. พื้นไม้ไวนิลผลิตจากนวัตกรรมยางไวนิลแข็งแรงทนทานเหนือกว่าพื้นไม้จริง 2. พื้นไม้ไวนิลความหนาแน่นภายในเนื้อวัสดสูงไม่เปราะหักง่ายอย่างไม้อัด 3. พื้นไม้ไวนิลมีพื้นผิววัสดุแกร่งทนต่อรอยขีดขูดด้วยชั้นเคลือบผิวคุณภาพสูง 4. พื้นไม้ไวนิลมีความทนต่อความชื้นและไม่บวมนํ้าอย่างพื้นไม้อัด 5. พื้นไม้ไวนิลประกอบด้วย fiber layer ไม่ทำให้พื้นหดตัวหลังการติดตั้ง 6. พื้นไม้ไวนิลช่วยให้คุณหมดปัญหาเรื่องปลวกกินไม้ 7. พื้นไม้ไวนิลบางรุ่นไม่ลามไฟ 8. พื้นไม้ไวนิลมีผิวเคลือบยูวีป้องกันไม่ให้สีผิวสีดจางต่อแสงแดด 9. พื้นไม้ไวนิลมีหน้าลายหลากดีไซน์หลายสีให้เลือก ให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริง 10. พื้นไม้ไวนิลมีผิวสัมผัสให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อสัมผัสเท้าไม่รู้สึกกระด้าง 11. พื้นไม้ไวนิลมีผิวลายด้านบน (texture surface) ไม่ทำให้พื้นลื่นปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัว 12. พื้นไม้ไวนิลไม่นำความเย็นอย่างหินสังเคราะห์หรือแกรนิต ช่วยให้เท้าของคุณอบอุ่นดีต่อสุขภาพ 13. พื้นไม้ไวนิลติดตั้งได้ง่ายบนพื้นคอนกรีตฉาบเรียบหรือปูทับบนพื้นหินเดิม 14. พื้นไม้ไวนิลต้องติดตั้งด้วยกาวคุณภาพสูงเฉพาะสำหรับพื้นไวนิล แน่นหนาไม่หลุดล่อน 15. พื้นไม้ไวนิลง่ายต่อการดูแลรักษาด้วยการใช้นํ้าเปล่าผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเช็ดถู 16. พื้นไม้ไวนิลทำให้บ้านและที่ทำงานของคุณสวยพร้อมอายุการใช้งานยาวนาน 17. พื้นไม้ไวนิลช่วยลดการใช้ไม้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม 18. พื้นไม้ไวนิลไม่ทำให้เกิดเสียงดังเวลาเดิน .......................................................................................... สนใจติดต่อ บริษัท โฟร์ทแมท กรุ๊ป จำกัด Address : 24/44 ซอยวัดสลักเหนือ (ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด31) ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 Phone : +66 20433361 Mobile : +66 891718377 Mobile : +66 813741877 Line@ : @forthmat Email : sales@forthmat.com

พื้นไม้ลามิเนตคืออะไร พื้นไม้ลามิเนต คือพื้นไม้ชนิดหนึ่งเป็นชั้น ๆ การเป็นชั้น ๆ ชิ้นบาง ๆ หรือ แผ่นบาง ๆ ใช้สำหรับการปูพื้นภายในบ้านเพราะมีความสวยงาม ทนทานและติดตั้งง่าย พื้นไม้ลามิเนต ผลิตจากกระบวนการตามวิทยาศาสตร์ซึ่งยังมีคงส่วนประกอบที่ทำจากไม้ โดยวิธีการบีบอัดไม้จากป่าปลูกด้วยความแรงสูง (ส่งผลให้ตัวไม้มีความคงทนค่อนข้างสูง) โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และนำมารวมเข้าด้วยกันกับชั้นอื่น ๆ โดยการบีบอัดด้วยความแรงสูง ร่วมกับความร้อน โดย ชั้นต่างๆของพื้นไม้ลามิเนต วิธีทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต ทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนตเป็นประจำ เทคนิคสำคัญที่จะปกป้องพื้นไม้ลามิเนต จากคราบสกปรกและรอยขีดข่วนคือ การหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ ด้วยการถูพื้นด้วยผ้าแห้ง ๆ ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาด อย่าใช้แปรงทั่วไปขัดพื้นไม้ลามิเนต อาจจะฟังดูแปลก แต่แปรงธรรมดาทั่วไปจะมีขนแปรงที่แข็งจนสร้างความเสียหายให้กับพื้นไม้ลามิเนตได้ ดังนั้นให้เลือกใช้เป็นแปรงขนนุ่มหรือไม้ม็อบในการทำความสะอาดแทน อย่าปล่อยให้พื้นไม้ลามิเนต เปียกน้ำ ทุกครั้งที่มีของเหลวหยดใส่พื้นไม้ลามิเนต ให้รีบทำความสะอาดทันที ห้ามปล่อยแช่ทิ้งไว้เป็นอันขาด เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวเคลือบจนพื้นไม้ลามิเนต บวมได้ โดยให้เช็ดออกด้วยผ้าแห้งหรือกระดาษทิชชูนั่นเอง ใช้น้ำอุ่นทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต ทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนตแบบจริงจังทุก ๆ 2-3 เดือน โดยให้ใช้น้ำอุ่นเป็นตัวช่วยกำจัดฝุ่นและคราบสกปรกเพราะมีความอ่อนโยน หรืออาจทำความสะอาดทุกครั้งที่รู้สึกว่าพื้นไม้ลามิเนต สกปรกมากก็ได้ ใช้น้ำส้มสายชูเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต เพื่อความสะอาดล้ำลึกหรือในกรณีที่เจอคราบหนักจนแค่น้ำอุ่นเอาไม่อยู่ ให้ผสมน้ำเปล่าเข้ากับน้ำส้มสายชูแล้วใช้เช็ดทำความสะอาด น้ำยาสูตรนี้จะช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้พื้นไม้ลามิเนต ดูเหมือนใหม่ โดยกลิ่นของน้ำส้มสายชูจะจางไปใน 2-3 นาที หรืออาจจะหยดกลิ่นมะนาว เปเปอร์มินต์ หรือน้ำมันหอมระเหยลงไป เพื่อความสดชื่นก็ได้ โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูเพียว ๆ เพราะจะรุนแรงจนเกินไป จำกัดคราบหนักของพื้นไม้ลามิเนต ด้วยแอลกอฮอล์ กำจัดคราบหนักอย่าง คราบหมึก ยาทาเล็บ ยาขัดรองเท้า ฯลฯ ด้วยการเช็ดพื้นด้วยแอลกอฮอล์ หรือหากกลัวว่าพื้นไม้ลามิเนต จะเสียหายให้ผสมแอลกอฮอล์กับน้ำเปล่าเพื่อเจือจาง อีกทางเลือกคือให้ใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดกับสำลีเป็นตัวช่วย เพื่อกำจัดคราบเอาออกยากเหล่านี้ ขจัดคราบเหนียวบนพื้นไม้ลามิเนต ด้วยน้ำแข็ง ในกรณีที่มีคราบเหนียวอย่างขี้ผึ้งหรือหมากฝรั่งติดพื้นไม้ลามิเนต ให้ถูน้ำแข็งลงบนคราบดังกล่าวและค่อย ๆ ขูดออกอย่างเบามือ โดยระมัดระวังอย่าให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้น นอกจากนี้น้ำแข็งยังสามารถขจัดหมากฝรั่งออกจากพรมได้อีกด้วย ห้ามใช้เครื่องขัดพื้นไม้ลามิเนต เครื่องขัดพื้นไม้ลามิเนต ไฟฟ้าอาจจะอำนวยความสะดวกในพื้นไม้ลามิเนต ที่กว้าง ๆ อย่างร้านอาหาร แต่ไม่เหมาะสมกับการทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต แน่นอน เพราะมีความรุนแรงจนอาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นได้ จำไว้ว่าเครื่องขัดพื้นไม้ลามิเนต แบบนี้เหมาะสมจะใช้กับพื้นไม้แข็ง ๆ เท่านั้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนทุกประเภท เพราะอาจสร้างความเสียหายแบบถาวรให้กับพื้นไม้ลามิเนต นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงแปรงขนโลหะหรือแปรงขนแข็งทุกชนิด เพราะอาจทิ้งรอยขีดข่วนไว้ได้ ทำความสะอาดด้วยแชมพูเด็ก แทนที่จะใช้น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาทำความสะอาดใด ๆ ให้ใช้วิธีทีที่อ่อนโยนและปลอดภัยในการทำความสะอาดพื้นไม้ลามิเนต อย่างการตีแชมพูเด็กกับน้ำให้เกิดฟอง จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบเพื่อทำความสะอาด โดยอย่าลืมเช็ดด้วยผ้าสะอาดปิดท้ายด้วย การใช้พื้นไม้ลามิเนต ต้องระวังเรื่องใดบ้าง? พื้นไม้ลามิเนตมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าไม้จริงจึงไม่ถูกกับอากาศร้อน ดังนั้นห้องที่ปูด้วยลามิเนตต้องเปิดหน้าต่างเป็นประจำเพื่อให้อากาศถ่ายเท  ไม่เช่นนั้นรอยต่อพื้นอาจบวม โก่ง หรือยุบยวบได้เช่นกัน พื้นไม้ลามิเนตยังไม่ถูกกับความชื้น เช่น ชื้นเพราะมีน้ำรั่วซึมจากกรอบหน้าต่าง พื้นหน้าห้องน้ำ หรือความชื้นจากใต้พื้นคอนกรีต ความชื้นเหล่านี้สามารถทำให้พื้นบวมพองได้ พื้นไม้ลามิเนตต้องทำความสะอาดอย่างถูกวิธี โดยใช้ผ้าชุบน้ำบิดแบบหมาดๆ จนถึงแห้ง หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นเท่านั้น การใช้ผ้าเปียกเกินไปหรือการทำน้ำหกลงพื้นแล้วไม่รีบเช็ดจะทำให้พื้นบวมได้ง่าย พื้นไม้ลามิเนตมีสิทธิโดนปลวกแทะถ้าได้รับความชื่้นอยู่เสมอ พื้นไม้ลามิเนตเหมาะสำหรับปูพื้นผิวภายในเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับพื้นภายนอกได้เลย ถ้าพื้นผิวคอนกรีตค่อนข้างไม่ได้ระดับ ไม่เรียบ ควรเลือกพื้นชนิดหนาคือ 12 มิลลิเมตร ขั้นตอนการติดตั้งพื้นผิวต้องได้ระดับ พื้นไม้ลามิเนตติดตั้งง่ายและรวดเร็วก็จริง แต่การเตรียมพื้นผิวพื้นหน้างานต้องปรับให้ได้ระดับก่อนติดตั้ง โดยความแตกต่างของระดับไม่ควรเกิน 5 มิลลิเมตร ไม่เช่นนั้นพื้นจะยุบยวบได้ วิธีติดตั้งต้องถูกวิธีถูกขั้นตอน เช่น การเว้นร่องรอบห้องประมาณ 1 เซนติเมตร หรือต้องสอดพื้นไม้ลามิเนตเข้ากับใต้วงกบไม้เพื่อไม่ให้พื้นโก่งตัวหรือยุบตัว

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) คือพื้นไม้ที่ทำการปรับคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) มีความเหมาะสมมากที่สุดทั้งทางด้านความคงทน และ ความสวยงาม จนไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างไม้จริง (Solid Wood Flooring) กับไม้เอ็นจิเนียร์ เมื่อติดตั้งออกมา เนื่องจากผิวหน้าของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ก็คือไม้จริงนั่นเองพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ หรือ Engineered Wood Flooring ประกอบไปด้วยส่วนประกอบสำคัญหลัก 3 ชั้นด้วยกัน ได้แก่ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) มีชั้นผิวหน้าไม้จริง ความหนา 3 มิลลิเมตร โดยทางโรงงานของดับเบิลฟลอร์ มีการนำเข้าชุงไม้หลากหลายชนิด ตามแหล่งประเทศที่ปลูก เพื่อนำมาฝานเป็นผิวหน้าไม้ เช่น ไม้โอ้ค ไม้แอช ไม้บีช ไม้มะค่า ไม้สักแอฟริกา ไม้เมอเบาว์ ไม้เมเปิ้ล ไม้วอลนัท และ อื่น ๆ อีกมากมาย พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) มีใส้ไม้ชั้นกลาง วัสดุที่นำมาทำเป็นไส้ไม้ชั้นกลาง คือ ไม้จริง ประเภทไม้ยางพารา ที่เรานำมาฝานเป็นชิ้นเล็ก ๆ และนำมาเรียงตัว 90 องศา กับผิวหน้าไม้จริง และเว้นช่องไฟเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นไม้ และ ให้มีอากาศได้ถ่ายเท จึงทำให้พื้นไม้มีการยืดหดขยานตัวต่ำ เมื่อเทียบกับไส้ไม้อัดทั่วไปตามท้องตลาด พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) มีผิวไม้ชั้นล่างสุด เป็นวัสดุไม้ยางพาราเต็มแผ่น นำมาประกบหลังพื้นไม้ เป็นชั้นล่างสุด เพื่อสร้างความสมดุล และ เพิ่มความแข็งแรงให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ นอกจากนี้กรรมวิธีการผลิตพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ของเรา ยังประกอบไปด้วยกระบวนการต่าง ๆ อีกมากมาย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหน้าไม้ ตัวอย่างเช่นกระบวนการอบไม้ และพ่นกันปลวกและมอด กระบวนการเคลือบผิวหน้าด้วยยูวี จากโรงงาน หรือ กระบวนการ ย้อมสี ปัดเสี้ยนไม้ให้ได้ความสวยงาม เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าเป็นต้น   พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เหมาะกับการติดตั้งบริเวณใด? พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) ก็เหมือน พื้นไม้จริง (Solid Wood Flooring) กล่าวคือ เป็นวัสดุตกแต่งภายในบ้าน ไม่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งนอกบ้าน และ พื้นห้องที่เหมาะสมสำหรับติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จึงควรเป็นห้องที่ไม่มีน้ำ และ ความชื้นเข้าถึงได้ ตัวอย่างห้องต่าง ๆที่นิยมติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องออกกำลังกาย เหมาะสมกับทั้งงานบ้าน โรงแรม และ คอนโดมิเนียม โดยเฉพาะคอนโดที่ต้องการตกแต่งห้องให้สวยงาม น่าอยู่ และ มีกลิ่นอายของพื้นไม้จริง ที่มีลวดลายตามธรรมชาติ และ สีที่เข้มอ่อน ของไม้สลับกันไป อย่างน่าค้นหา จะเห็นได้ว่า ตามคอนโดส่วนใหญ่ มักเลือกใช้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ในห้องส่วนกลาง เช่น ห้องสมุด ห้องโถง ห้องกิจกรรม หรือ แม้กระทั่งห้อง ฟิตเนส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอนโดมิเนียมระดับบน ยังเลือกใช้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เพื่อนำมาตกแต่งพื้นให้สวยงาม ดูดีมีราคา เหมาะกับคอนโดแบบลักชัวรี่ อีกด้วยครับ เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องที่ติดตั้งด้วยพื้นไม้จริง หรือ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างที่เด่นชัด ที่สามารถรับรู้ได้คือ กลิ่นของไม้ที่มีความหอมอันเป็นลักษณะเด่นของไม้ชนิดนั้น ๆเป็นไปตามธรรมชาติ รวมถึง ลวดลาย และ สีของไม้ที่ ธรรมชาติให้มา แบบที่วัสดุสังเคราะห์อื่น ๆต้องการลอกเลียนแบบ

ไม้พื้นโอ๊คมีดีอย่างไร ไม้ตระกูลโอ๊คนั้นจัดเป็นไม้เนื้อแข็ง และไม้อุตสาหกรรม ด้วยปริมาณที่มีอยู่มากมายทำให้มีระดับราคาที่ค่อนข้างคงที่ ต่างจากไม้ในประเทศบ้านเรา ที่ระดับราคาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่ปริมาณและความหายากของไม้แต่ละชนิด ไม้โอ๊คเป็นไม้ที่มาจากทางฝั่งยุโรป อเมริกา จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น แต่ไม้โอ๊คที่มีคุณภาพจริงๆ จะมาจากจีนและญี่ปุ่น เนื่องจากอากาศเย็นทำให้เติบโตช้า เนื้อไม้จึงมีความละเอียดมากกว่าทางฝั่งอเมริกา เพราะไม้โอ๊คส่วนใหญ่ในอเมริกาเป็นป่าปลูกที่ตัดจากป่าธรรมชาติ ซึ่งมีการปลูกทดแทนอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ยังคงความสวยงามของลายไม้อยู่ สมัยนี้เราสามารถหาไม้ต่างประเทศในบ้านเราได้เป็นปกติ และเริ่มเป็นที่นิยมที่จะนำมาใช้ออกแบบมากขึ้นอีกด้วย ตามกระแสและแนวทางในการออกแบบจากทางฝั่งอเมริกา โดยที่จะแบ่งประเภทของไม้โอ๊คออกได้เป็น 2 ชนิดด้วยกัน 1. ไม้โอ๊คแดง(Red Oak) ไม้โอ๊คแดงปลูกมากทางฝั่งตะวันออกของอเมริกา เนื้อไม้ออกสีน้ำตาลเข้มอมแดง มีเสี้ยนที่ลึกเห็นเด่นชัด สัมผัสไม้หยาบให้ความรู้สึก แน่น รก และ หนัก ตามสไตล์บ้านฝรั่งที่เน้นการตกแต่งบ้านด้วยไม้ขนาดใหญ่ โทนสีเข้ม ให้ความรู้สึกหนักและทึบตัน นิยมนำมาใช้ทำพื้น และเฟอนิเจอร์ไม้ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านเราซักเท่าไหร่ เนื่องจากสไตล์การตกแต่งบ้านแบบไทยเราเองหรือว่าสไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราตอนนี้ จะเน้นที่รูปแบบ เรียบง่าย โปร่ง เบาสบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบและความรู้สึกที่ได้จากไม้โอ๊คแดงอย่างเห็นได้ชัด 2. ไม้โอ๊คขาว(White Oak) ไม้โอ๊คขาวพบเห็นมากทางฝั่งตะวันออกของอเมริกาเช่นเดียวกัน เนื้อไม้ออกสีขาวอมเหลือง มีเสี้ยนถี่ละเอียด ผิวไม้เรียบกว่าไม้โอ๊คแดง ด้วยการที่ไม้โอ๊คขาวนั้นมีสีที่ขาวอ่อน สว่าง และผิวเรียบ จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบในบ้านเราที่จะเลือกไม้ชนิดนี้มาใช้ในงานกันมาก และแนวทางการแต่งบ้านสมัยนี้ก็นิยม สไตล์เรียบโมเดิร์น ที่ให้ความสัมผัส เรียบ และเบาสบายได้ดี ข้อมูลจาก:  Leowood